"ฟ่านจิ้งซาน" มรดกโลกแห่งใหม่ของจีน ควรไปเช็กอินสักครั้งในชีวิต
นอกจากกำแพงเมืองจีนแล้ว ประเทศจีนยังมีแหล่งท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์อีกมากมายรอให้เราได้ไปสัมผัส ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ฟ่านจิ้งซาน (Fanjingshan) ยอดเขาแสนสวย อีกหนึ่งจุดชมวิวน่าสนใจของสายแอดเวนเจอร์ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวภูเขา
ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้เพิ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกไปหมาด ๆ ถ้าหากไม่รีบเก็บกระเป๋าไป ระวังจะเสียใจเพราะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง !! ทว่าก่อนจะไปสัมผัสกับความงดงามของฟ่านจิ้งซาน ทางที่ดีเราลองมาทำความรู้จักกับยอดเขาแห่งนี้กันก่อนดีกว่า
ฟ่านจิ้งซาน (Fanjingshan) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาอู่หลิง (Wuling Mountain Range) ตั้งอยู่ในเมืองถงเหริน (Tongren) มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou Province) ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 480-2,570 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 567 ตารางเมตร โดยฟ่านจิ้งซานได้รับการจดทะเบียนเป็นเขตสงวนชีวมณฑล
โดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) และเมื่อวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ก็ได้รับการจดทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาอู่หลิง เทือกเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวบรวมพรรณพืชและพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ มากมายของจีน แถมยังมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาที่มีการแยกตัวของพื้นที่บ่อย ๆ จึงส่งผลให้ฟ่านจิ้งซานเป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชกว่า 2,000 ชนิด
เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ 2-65 ล้านปีก่อน กว่า 31 สายพันธุ์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่มีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์อีกกว่า 19 สายพันธุ์ รวมถึงยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น เช่น Fanjingshan Fir (Abies fanjingshanensis) and the Guizhou Snub-nosed Monkey (Rhinopithecus brelichi) ด้วย
ซึ่งไฮไลต์เด็ดของการมาเที่ยวฟ่านจิ้งซานต้องยกให้กับวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางไม่ควรพลาดของนักปีนเขาเลยทีเดียว โดยท็อปสามจุดชมวิวของภูเขาฟ่านจิ้งซาน ได้แก่ The Old Golden Summit, Fenghuang Summit และ New Golden Summit นอกจากนี้ The Mushroom Stone ก็ยังเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจ เพราะเป็นเขาหินสูงตั้งโดดเด่นเป็นสง่า สว่างไสวสวยงามแม้ในยามค่ำคืน ถือเป็นอีกแลนด์มาร์กสำคัญ ที่น่าสนใจไม่แพ้จุดอื่น ๆ เลยค่ะ
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้ว ฟ่านจิ้งซานยังถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของชาวพุทธในประเทศจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์หมิง โดยเชื่อกันว่าภูเขาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระศรีอริยเมตไตรย ในปี ค.ศ. 2010 ฟ่านจิ้งซานได้เปิดสวนพุทธที่มีโบสถ์สีทองอร่าม พร้อมรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยสูง 5 เมตร สร้างจากทอง 250 กิโลกรัม โดยว่ากันว่าเป็นรูปปั้นพระศรีอริยเมตไตรยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฟ่านจิ้งซาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ต้องอย่าลืมพกเสื้อคลุมฝนหรืออุปกรณ์กันฝน พร้อมกับเสื้อผ้าหนา ๆ ไปด้วยนะ เนื่องจากอากาศค่อนข้างที่จะหนาวเย็นมาก
สำหรับการเดินทางให้นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินถงเหริน จากนั้นก็ต่อรถบัสอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็ต้องปีนเขา 8,888 ขั้น เพื่อขึ้นไปชมวิวอันสวยงาม โดยจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มีค่าเข้าชมของผู้ใหญ่ 110 หยวน อ้อ...แต่ถ้าหากใครไม่อยากเดินที่นี่มีบริการเคเบิลคาร์สำหรับพานักท่องเที่ยวขึ้นไปสู่ยอดเขา โดยจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีราคา 90 หยวน/รอบ (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
การที่ฟ่านจิ้งซานได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็ทำให้จีนเป็นประเทศที่มีแหล่งมรดกโลกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศอิตาลี โดยแหล่งมรดกโลกของจีนประกอบไปด้วยแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 36 แห่ง แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ 13 แห่ง และแหล่งมรดกโลกแบบผสม 4 แห่ง รวมทั้งหมดเป็น 53 แห่ง เรียกได้ว่าจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศใกล้ ๆ ที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิตจริง ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
whc.unesco.org, en.wikipedia.org, travelchinaguide.com, unesco.org, telegraph.co.uk, fjsfjq.com,travel.kapook.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น