เที่ยว "เขาสันหนอกวัว" ความท้าทาย ที่นักผจญภัยต้องลอง จังหวัดกาญจนบุรี
ในประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวแบบผจญภัยมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะบุกป่า ฝ่าดง ปีนเขา ล่องแก่ง ก็มีให้เลือกท่องเที่ยวสารพัด ซึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกแห่งที่โดดเด่นมากในเรื่องนี้ หลายคนอาจนึกถึงเขาช้างเผือกเป็นที่แรก แต่วันนี้ขอพาคุณไปพบกับ เขาสันหนอกวัว แหล่งท่องเที่ยวปราบเซียน ท้าทายคนชอบลุย รับรองว่าถ้าไป คงได้มันส์กันแน่
**อุทยานแห่งชาติเขาแหลม กำหนดเปิดเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาสันหนอกวัว ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2561 – 3 กุมภาพันธ์ 2562
ภาพจาก painaidii.com
เขาเขียว สันหนอกวัว เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินป่าขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติ และชมทัศนียภาพจากบนยอดเขา การเดินทางขึ้นเขานั้นจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อนำทางไปยังจุดที่สามารถตั้งแคมป์ได้ การเดินทางจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ขับรถนำไปยังจุดเริ่มเดินเข้าไปในป่า บริเวณเชิงเขาหัวโล้น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ
จากนั้นต้องใช้การเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขา ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ นำทางไปเท่านั้น ระยะทางจากด้านล่างไปยังจุดตั้งแค้มป์ ประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียวได้ จะต้องพักค้างแรม กางเต็นท์นอนบนเขา
รูปภาพจาก อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
การเดินทางขึ้นเขาควรเดินเกาะกลุ่ม ไม่ทิ้งห่างกันมาก ไม่เดินแยกไปตามลำพัง และควรเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะการเดินป่าแห่งนี้ไม่มีเส้นทางให้เห็นชัดเจน อาจหลงป่า หรือเกิดอันตรายได้ การขึ้นเขาไปยังสันหนอกวัว สามารถขึ้นได้ตลอดทั้งปี
ช่วงหลังหน้าฝน เริ่มเข้าหน้าหนาว เป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา และจะได้เห็นหมอกบนยอดเขา หน้าฝนการเดินขึ้น-ลงเขา อาจจะลำบากกว่าลื่น เปียกแฉะ ควรสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้า
เส้นทางในช่วงแรก จะเป็นการเดินผ่านป่าไผ่จากเชิงเขาด้านล่าง เป็นทางราบ มีต้นไม้สลับกับทางขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศโดยรอบ ร่มรื่นจากต้นไม้ อากาศชุ่มชื้น เย็นสบาย แดดไม่ร้อนมาก จากนั้นก็จะเป็นการเดินไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จุดนี้ยังมีต้นไม้ และร่มเงาไม้อยู่มาก แต่การเดินขึ้นเขาชัน ทำให้เหนื่อยง่าย ควรพกน้ำดื่มระหว่างทางไปด้วย หากมีไม้เท้า หรือไม้ค้ำเดิน ก็จะช่วยผ่อนแรงในการขึ้นเขาได้ เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จะเป็นบริเวณสันเขา ที่เริ่มเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องล่าง และเมื่อถึงบริเวณลานกว้างบนยอดเขา จะเป็นจุดตั้งแคมป์ จากจุดนี้จะมองเห็นเขาเล็กๆ ที่ดูคล้ายสันหนอกวัวด้วยเหมือนกัน แต่สันหนอกวัวจริงๆ นั้นจะใหญ่กว่า ต้องเดินเลียบเชิงเขาต่อไปอีก
วิวบนยอดเขา เป็นภูเขาหญ้า คล้ายเขาช้างเผือก มีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บังทัศนียภาพ จึงสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้สุดลูกหูลูกตา เห็นทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ และภูเขาสลับซับซ้อนเบื้องล่าง
อีกมุมหนึ่งจะเห็นเขาเรดาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกองทัพอากาศ สังกัดกระทรวงกลาโหม ที่จัดตั้งเป็นสถานีเรดาร์ เพื่อดูแลความปลอดภัยทางอากาศ เมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดคือการได้ถ่ายกับป้ายผู้พิชิต “สันหนอกวัว” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการได้มาเยือนยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนี้ เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และเดินตามสันเขา ไหล่เขา เพื่อชมวิวในมุมอื่นๆ ได้ด้วย สิ่งดึงดูดอีกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยว คือการได้มาชมดอกกุหลาบพันปี ที่ขึ้นบนยอดเขา และจะออกดอกบานสะพรั่ง ประมาณช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ของทุกปี
โดยทั่วไป อากาศบนยอดเขาเย็นสบายตลอดปี ช่วงเช้ามักจะมีหมอกปกคลุมไปทั่ว นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันในฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคม – มีนาคม เพราะการเดินทางขึ้นเขาง่ายกว่าช่วงฤดูฝน ได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็น และทะเลหมอกบนยอดเขา
ข้อแนะนำ
– ผู้ที่ต้องการพิชิตยอดเขาเขียว สันหนอกวัว ควรจะมีความพร้อมทางด้านร่างกายเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องเข่า และขา เพราะเป็นการเดินขึ้นเขาสูงชัน
– ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ควรใส่ปลอกแขน หรือเสื้อแขนยาว หญ้าหรือกิ่งไม้บาด ใส่กางเกงที่สบาย ไม่คับเกินไป ไม่ควรใส่ยีนส์ หรือขาสั้น รองเท้าไม่ควรคับเกินไป
– ควรเตรียมอุปกรณ์เดินป่าที่จำเป็นไปให้พร้อม เช่น ไฟฉาย ยาทาแผล และอื่นๆ โดยเฉพาะยากันยุง แมลง และทาก
– ควรเตรียมน้ำดื่ม และอาหารไปให้เพียงพอ
– ควรนำสัมภาระเท่าที่จำเป็นไปเท่านั้น เพราะเป็นการเดินทางระยะไกลเป็นเวลาเกือบครึ่งวัน รวมถึงมีเส้นทางที่เป็นการขึ้นเขาชัน
– ควรเชื่อฟังเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่เดินออกนอกเส้นทาง หรือเดินทางตามลำพัง
– ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง และลูกหาบล่วงหน้า เพราะมีการจำกัดนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนเขาด้วย
– ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ควรใส่ปลอกแขน หรือเสื้อแขนยาว หญ้าหรือกิ่งไม้บาด ใส่กางเกงที่สบาย ไม่คับเกินไป ไม่ควรใส่ยีนส์ หรือขาสั้น รองเท้าไม่ควรคับเกินไป
– ควรเตรียมอุปกรณ์เดินป่าที่จำเป็นไปให้พร้อม เช่น ไฟฉาย ยาทาแผล และอื่นๆ โดยเฉพาะยากันยุง แมลง และทาก
– ควรเตรียมน้ำดื่ม และอาหารไปให้เพียงพอ
– ควรนำสัมภาระเท่าที่จำเป็นไปเท่านั้น เพราะเป็นการเดินทางระยะไกลเป็นเวลาเกือบครึ่งวัน รวมถึงมีเส้นทางที่เป็นการขึ้นเขาชัน
– ควรเชื่อฟังเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่เดินออกนอกเส้นทาง หรือเดินทางตามลำพัง
– ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง และลูกหาบล่วงหน้า เพราะมีการจำกัดนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนเขาด้วย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240 โทร. 034-546819
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม รับจองทางโทรศัพท์ เบอร์ 034-510-431 และเบอร์ 089-2287612 หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240 โทร. 034-546819
เวลา 09.00 น. – 16.30 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจ Facebook อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ที่มา : travel.mthai.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น